![การล่มสลายของจักรวรรดิ — ช่วงปลายสมัยคริสต์ศักราชที่ 19 และการต่อสู้เพื่อเอกราชของเอธิโอเปีย](https://www.aramedica-istanbul.de/images_pics/the-collapse-of-the-empire---late-19th-century-and-ethiopia-s-fight-for-independence.jpg)
ในขณะที่ประวัติศาสตร์โลกถูกบันทึกไว้ด้วยหมึกและกระดาษ รอยร่องของอารยธรรมโบราณก็ยังคงปรากฏอยู่บนแผ่นดินและในใจผู้คนมากมาย อีกทั้ง การผจญภัยและการต่อสู้เพื่ออิสรภาพที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญก็ได้ถูกเล่าขานจากรุ่นสู่รุ่น ในหมู่ประชาชนของเอธิโอเปีย ประเทศที่มีอายุยาวนานในทวีปแอฟริกา มีเรื่องราวอันน่าตื่นเต้นของการต่อสู้เพื่อความเป็นอิสระที่นำโดย Príncipe Sahle Selassie
ก่อนที่จะขุดลึกลงไปในประวัติศาสตร์และชีวิตของ Príncipe Sahle Selassie, อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจักรวรรดิเอธิโอเปีย เราต้องเข้าใจถึงบริบททางการเมืองและสังคมที่เขานำเสด็จมาสู่จุดกำเนิดของประวัติศาสตร์นี้
หลังจากสงครามอิตาลี-เอธิโอเปียนครั้งแรกในปี 1895-1896 ซึ่งจักรวรรดิอิตาลีพ่ายแพ้ต่อกองทัพเอธิโอเปีย, อิตาลีกลับมาใหม่โดยการยึดครองเอริเตรียและโซมาเลีย
แม้ว่าจักรวรรดิจะชนะในสงครามครั้งแรก แต่ก็ยังคงอยู่ในสภาวะที่ไม่มั่นคง เนื่องจากอำนาจของจักรวรรดิยุโรปที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าจักรวรรดิอิตาลีไม่ยอมแพ้
ในปี 1935, อิตาลีภายใต้การนำของเบนิโต มุสโsolini เริ่มต้นการบุกครองเอธิโอเปียอีกครั้ง
สงครามนี้ต่างไปจากสงครามครั้งก่อนอย่างสิ้นเชิง อิตาลีได้เตรียมตัวมาอย่างดี และพวกเขานำทหารจำนวนมากพร้อมอาวุธทันสมัยมาโจมตี จักรวรรดิเอธิโอเปียต้องเผชิญกับการบุกโจมตีที่เหนือกว่าและขาดความช่วยเหลือจากชาติอื่นๆ
ในช่วงเวลานี้ Príncipe Sahle Selassie,
ซึ่งเป็นหลานชายของจักรพรรดิ Hailé Selassie I
ได้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศ
Príncipe Sahle Selassie ได้แสดงความสามารถในการทูตและการเจรจาต่อรองอย่างยอดเยี่ยม
บทบาทของ Príncipe Sahle Selassie ในช่วงสงครามอิตาลี-เอธิโอเปีย
แม้ว่าจักรวรรดิเอธิโอเปียจะพ่ายแพ้ในสงคราม แต่Príncipe Sahle Selassie ยังคงเป็นบุคคลสำคัญในการต่อสู้เพื่อเอกราชของประเทศ
ขณะที่จักรวรรดิถูกยึดครอง Príncipe Sahle Selassie ได้หนีไปต่างประเทศและทำงานอย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อรวบรวมการสนับสนุนจากนานาชาติ
งานของเขาไม่ได้มีเพียงการเรียกร้องความช่วยเหลือเท่านั้น แต่ยังได้เน้นถึงความสำคัญของอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรมของเอธิโอเปีย
Príncipe Sahle Selassie เชื่อว่าการฟื้นฟูความเป็นอิสระของเอธิโอเปียจะต้องมาพร้อมกับการปกป้องประเพณีและวัฒนธรรมอันมีค่าของประเทศ
นี่เป็นงานที่ไม่ใช่เรื่องง่าย
ความท้าทายในการต่อสู้เพื่อเอกราช
ในช่วงสงคราม Príncipe Sahle Selassie ได้เผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมาย
การรณรงค์หาทุนและการสนับสนุนจากนานาชาติเป็นงานที่หนักหน่วง
นอกจากนั้น การโน้มน้าวให้มหาอำนาจตะวันตกเข้าร่วมในความพยายามในการปลดปล่อยเอธิโอเปียก็เป็นเรื่องที่ไม่ง่าย
หลายประเทศต่างกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับอิตาลี
อย่างไรก็ตาม Príncipe Sahle Selassie ไม่ย่อท้อ
ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถในการเจรจา เขาได้สร้างเครือข่ายผู้สนับสนุนที่แข็งแกร่ง
จากการพยายามอย่างไม่หยุดยั้งของ Príncipe Sahle Selassie และผู้นำเอธิโอเปียคนอื่นๆ ประเทศได้รับเอกราชในปี 1941
มรดกของ Príncipe Sahle Selassie
Príncipe Sahle Selassie เป็นบุคคลสำคัญที่ทุ่มเทอย่างไม่เห็นแก่ตัวเพื่อประเทศของเขา
ความกล้าหาญ ความฉลาด และความสามารถในการเจรจาของเขายังคงเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลัง
นอกจากนั้น การต่อสู้เพื่อเอกราชของเอธิโอเปียภายใต้การนำของ Príncipe Sahle Selassie ยังเป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงพลังของความสามัคคีและความ दृ cómoda
ในขณะที่เราสำรวจอดีต เราไม่ควรลืมบทเรียนอันมีค่าที่ Príncipe Sahle Selassie สอนให้เรา
การต่อสู้เพื่ออิสรภาพและความเป็นธรรมต้องใช้ความมุ่งมั่น ความกล้าหาญ และความยืดหยุ่น